กรุงเทพมหานครกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์ปล่อยให้กฎหมู่ย่ำยี คนไทยแตกเป็นสองฝ่ายและยกพวกห้ำหั่นตีกันเอง ทั้งที่อยู่ใน แผ่นดินเดียวกันแท้ๆ โดยหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนพลออกจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภากดดันไม่ให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเปิดยุทธการดาวกระจาย ขนคนบุกปิดล้อมหน่วยงานสำคัญของรัฐบาล มีการตัด น้ำตัดไฟ จากนั้นม็อบพันธมิตรฯได้เคลื่อนพลไปยังสนามบินดอนเมือง ที่รัฐบาลใช้เป็นทำเนียบฯ ชั่วคราว ปิดล้อม อาคารที่ทำงาน และช่วงบ่ายวันเดียวกันก็ได้เกิดเหตุปะทะ กันระหว่าง กลุ่มแท็กซี่เสื้อแดง ยกพลปิดถนนดักตีคนเสื้อเหลือง ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 3 และในช่วง เช้ามืดวันที่ 25 พ.ย. กลุ่มพันธมิตรฯก็ได้เคลื่อนพลมาปิด ล้อมสนามบินดอนเมือง ที่รัฐบาลใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวอีก ซึ่งตลอดวันที่ 25 พ.ย. สถานการณ์ในกรุงเทพฯ ได้เกิดความตึงเครียดในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่หน้ากอง บัญชาการกองทัพไทย สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงที่บริเวณปากซอย 3 ถนนวิภาวดีรังสิต ก็ได้เกิดเหตุคนเสื้อเหลืองยกพลมาถล่มคนเสื้อแดง มีการใช้อาวุธปืนยิงกันได้รับ บาดเจ็บไปหลายราย สร้างความอเนจอนาถใจแก่ผู้ที่ไม่ ฝักใฝ่ฝ่ายใด ที่เห็นคนไทยต่างลงมือเข่นฆ่ากันเอง ทั้งที่ไม่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น